Skip to content
Home » Blog » กฎ กติกา การเล่นเก้าเก

กฎ กติกา การเล่นเก้าเก

    กฎ กติกา การเล่นเก้าเก เป็นการพนันไพ่อีกรูปแบบหนึ่งที่คนไทยนิยมเล่นกันไม่แพ้ไพ่ป๊อกเด้ง บาคาร่า ลักษณะการเล่นจะมีทั้งการแจกไพ่ 2 , 3 , 4 ใบ แต่โดยทั่วๆ ไปจะมีการแจกไพ่กันแค่ 3 ใบเท่านั้น เก้าเกถือเป็นไพ่ที่ต้องอาศัยดวงค่อนข้างสูง เพราะไม่สามารถจั่วหรือเปลี่ยนไพ่ได้ แจกไพ่มา 3 ใบได้แต้มเท่าไหร่ก็เท่านั้นเลย นอกจากนี้เก้าเกยังต้องใช้ไหวพริบสูง เพื่อที่จะหลอกล่อคู่แข่ง และต้องมีเงินทุนไว้เล่นเยอะพอสมควรอีกด้วย

    กฎ กติกา การเล่นเก้าเก

    กฎ กติกา การเล่นเก้าเก

    เก้าเก เป็นเกมไพ่ที่ไม่มีเจ้ามือ ดังนั้นจึงเป็นการสู้กันเองระหว่างผู้เล่น ใช้ไพ่ 1 สำรับในการเล่น ต้องมีผู้เล่นอย่างน้อยตั้งแต่ 2 – 6 คน เริ่มแรกผู้เล่นทุกคนต้องลงเงินเดิมพันกองกลางตามที่ตกลงกันว่าจะจำนวนเท่าใด จากนั้นให้ทำการแจกไพ่ โดยตาแรกจะแจกให้ใครเป็นมือแรกก็ได้ แต่ตาต่อๆ ไปจะแจกไพ่ให้กับผู้ชนะก่อนเป็นมือแรก

    โดยการแจกไพ่จะวนด้านซ้ายเสมอ เสร็จแล้วให้ผู้เล่นแต่ละคนดูไพ่ว่าได้กี่แต้ม หากผู้เล่นเห็นว่าแต้มไพ่ในมือน้อยสามารถเลือกหมอบได้ แต่จะหมดสิทธิ์เล่นต่อในตานั้นทันที หรือหากจะวัดดวงให้เลือกสู้

    หรือหากมั่นใจว่าชนะแน่ สามารถเกเงินหมดหน้าตักเพื่อลงเดิมพันกองกลางเพิ่มได้ โดยหลังจากเล่นรอบสุดท้ายแล้ว ให้ผู้เล่นเปิดไพ่เพื่อดูว่าแต้มของใครจะสูงหรือใหญ่ที่สุด คนนั้นก็จะได้เงินเดิมพันกองกลางทั้งหมดไป

    การนับแต้มไพ่เก้าเก 

    ไพ่เก้าเก นับแต้มไพ่เหมือนกับไพ่ป๊อกเด้ง ได้แก่

    • 2 – 9 มีค่าตามจำนวนตัวเลขหน้าไพ่
    • A มีค่าเท่ากับ 1
    • 10 J Q K มีค่าเท่ากับ 0

    การนับแต้มจากดอกไพ่

    วิธีนี้จะใช้วัดผลแพ้-ชนะ กรณีที่แต้มไพ่ในมือเท่ากัน โดยเรียงใหญ่ไปเล็กได้ดังนี้

    • โพธิ์ดำ
    • โพธิ์แดง
    • ข้าวหลามตัด
    • ดอกจิก

    วิธีเทียบแต้มไพ่เก้าเก 

    • ไพ่ตอง คือไพ่ที่ใหญ่ที่สุดในการเล่น โดยไพ่ทั้ง 3 ใบบนมือของผู้เล่นต้องเหมือนกันทั้งหมด หากมีผู้เล่นได้ไพ่ตองเหมือนกัน จะวัดจากความใหญ่ซึ่ง “ตอง 3” คือไพ่ที่ใหญ่ที่สุด เพราะนับรวมแล้วได้ 9 แต้ม รองลงมาก็คือ ตอง A > ตอง K >  ตอง Q > ตอง J > ตอง 10 > ตอง 9 > ตอง 8 > ตอง 7 > ตอง 6 > ตอง 5 > ตอง 4 > ตอง 2 ตามลำดับ
    • เสตรทฟลัช คือไพ่ทั้ง 3 ใบที่มีเลขเรียงกันและมีดอกเดียวกันทั้งหมด หากผู้เล่นได้เสตรฟลัชเหมือนกัน จะตัดสินผู้ชนะจากดอกไพ่จากใหญ่ไปเล็กคือ โพธิ์ดำ > โพธิ์แดง > ข้าวหลามตัด > ดอกจิก หากเป็นดอกเดียวกันอีกจะดูที่ตัวเลขว่าใครเรียงสูงกว่ากัน โดยสูงที่สุดก็คือ Q K A โพธิ์ดำ ส่วนเล็กที่สุดของ 3 2 A ดอกจิก
    • ไพ่เรียง คล้ายกับสเตรทฟลัช คือไพ่ทั้ง 3 ใบมีตัวเลขเรียงกัน แต่ไม่จำเป็นต้องมีดอกไพ่เดียวกัน โดยไพ่เรียงใหญ่สุดจะเริ่มนับจาก Q K A น้อยสุดคือ 3 2 A
    • ไพ่เซียน คือไพ่ทั้ง 3 ใบเป็นสัญลักษณ์ J,Q,K โดยจะไม่จำเป็นต้องเรียงกัน สามารถซ้ำกันได้ เช่น Q Q J , J J K เป็นต้น โดยหากผู้เล่นมีไพ่เซียนเหมือนกัน จะตัดสินผู้ชนะที่ตัวคุมโดยไล่จากใหญ่ – เล็ก ได้แก่ J Q Kโพธิ์ดำ > J Q K โพธิ์แดง > J Q K ข้าวหลามตัด > J Q K ดอกจิก
    • ไพ่สี คือไพ่ทั้ง 3 ใบ ที่มีดอกไพ่เหมือนกัน ไม่จำเป็นจะต้องเรียงตัวเลข หากผู้เล่นมีไพ่สีเหมือนกัน วัดผลแพ้ชนะกันที่ความใหญ่ของดอกไพ่ ไล่จาก โพธิ์ดำ > โพธิ์แดง > ข้าวหลามตัด > ดอกจิก ตามลำดับ
    • ไพ่นับแต้ม คือการนับแต้มรวมของไพ่ทั้ง 3 ใบ ใหญ่สุดคือ 9 แต้ม หากแต้มนับรวมกันแล้วได้เกิน 10 แต้มขึ้นไป จะตัดเลขหลักสิบออก แล้วนับแต้มแค่ที่เป็นหลักหน่วยเท่านั้น หากผู้เล่นมีแต้มเท่ากันให้ดูตัวคุมไพ่ว่าใครใหญ่สุด เรียงจาก K >  Q > J >10 > 9 > 8 > 7 >  6 >  5 > 4 > 2 > 1 ตามลำดับ หากตัวคุมยังเท่ากันอีก ก็ต้องดูที่ดอกไพ่ไล่จาก โพธิ์ดำ > โพธิ์แดง > ข้าวหลามตัด > ดอกจิก

    ไพ่เก้าเก เมื่อเปรียบเทียบกับเกมไพ่ชนิดอื่นๆ แล้ว ถือเป็นไพ่อีกหนึ่งชนิดที่เข้าใจง่าย ได้เงินไว และการเดิมพันมีความสนุกทุกๆ รอบ เนื่องจากต้องการชิงไหวชิงพริบระหว่างผู้เล่นด้วยกันเอง ซึ่งถือเป็นสีสันในการเล่น สนใจสมัครเล่น เกมไพ่เก้าเกออนไลน์ บนเว็บไซต์ Ufath168 ได้ทั้งทางหน้าเว็บไซต์ หรือติดต่อเจ้าหน้าที่ที่รอให้บริการตลอด 24 ชม.ที่ @Ufath168